อากาศแปรปรวนปลานับ 1,000 กิโลกรัม ตายเกลื่อน (คลิป)

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หนองน้ำหนองตะมะ ด้านหลังวัดหนองตะมะ ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากได้รับแจ้งว่า มีปลาที่อาศัยอยู่ในหนองน้ำหลังวัดเกิดน็อกน้ำตายจำนวนมาก ไปถึงพบปลาที่ตายแล้วลอยอยู่เหนือน้ำเป็นแพ มีชาวบ้านมาเก็บเอาปลาที่ตายลอยอยู่เหนือน้ำและที่จมอยู่ใต้น้ำใส่กระสอบไปทำอาหาร เหลือกินก็นำไปขาย

พระกฤษณ์ฉพัฒน์ สมาจาโร พระลูกวัดหนองตะมะ ซึ่งเป็นผู้ดูแลปลาในหนองตะมะ กล่าวว่า เนื่องจากภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ประกอบกับในน้ำมีออกซิเจนน้อย ค่าพีเอสต่ำ ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของปลา หนองตะมะนี้มีเนื้อที่กว้างกว่า 6 ไร่ ถ้าน้ำขึ้นสูงสุด ตรงกลางหนองจะลึกประมาณ 16 เมตร เวลานี้น้ำตรงกลางหนองจะอยู่ที่ 12 เมตร เนื่องจากปลาที่อยู่ในหนองนี้มีญาติโยม ผู้ใจบุญต้องการทำบุญทำทาน สร้างกุศลด้วยการปล่อยปลา ก็จะนำมาปล่อยที่หนองตะมะนี้ จึงทำให้ปลามีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว แล้วปลาก็ไม่ได้มีการระบายออกไปไหน จะปล่อยให้ชาวบ้านมาจับปลาไปทำอาหารก็ไม่ได้เพราะเป็นเขตอภัยทาน ปีนี้ ปลาเกิดน็อกน้ำตายมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ 31 พฤษภาคม 2563 ปลาที่ตายเวลานี้เป็นปลาตะเพียนขาว ปลาไน ส่วนใหญ่จะเป็นปลามีเกล็ด ส่วนปลาหนังยังไม่พบตาย ปลาตะเพียนทยอยตายเรื่อยๆ ถึงวันพรุ่งนี้ถ้ายังตายอยู่คาดว่าจะมีน้ำหนักปลาตายไม่ต่ำกว่า 1,000 กิโลกรัม ปลาในหนองตะมะเคยตายเมื่อปี 2561 มาแล้วครั้งหนึ่ง ตายมากกว่านี้ ครั้งนี้ตายกว่า 2,000 กิโลกรัมหรือสองตัน มาปี 2562 ไม่มีปลาตาย ปีนี้มาตายอีก

นอกจากปลาหนาแน่น เครื่องทำออกซิเจนมีน้อยไม่ได้ติดตั้งรอบหนองเนื่องจากงบประมาณไม่มี แล้วการที่มีประชาชนผู้ใจบุญมาให้อาหารปลานี่ก็เป็นปัญหา เพราะให้อาหารมากไป ปลากินอาหารไม่หมดก็เกิดการเน่าเสีย เกิดก๊าซในน้ำ ตนต้องใช้ปูนขาวและเกลือเม็ดมาแก้น้ำเสียและตอนนี้ได้งดการให้อาหารปลาไปก่อน ประกอบกับสองวันที่ผ่านมาได้มีลมพายุพัดมาแรง ฝนตกมาไม่มากแดดก็มีน้อย จึงทำให้ปลาน็อกน้ำตาย ซึ่งตนจะหารือกับคณะกรรมการวัดจะใช้พลังงานโซล่าเซลมาใช้ในการผลิตออกซิเจนเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า” พระกฤษณ์ฉพัฒน์ กล่าว.

ด้านนางพะยอม ทัดเทียม อายุ 65 ปี ชาวบ้านหนองตะมะ ที่มีบ้านอยู่ติดกับหนองตะมะ กล่าวว่า ปลาเริ่มตายมาวันนี้เป็นวันที่สอง เมื่อวันก่อนมีลมพายุพัดมาแรง ปลาตะเพียนจะเป็นปลาใจน้อยขี้ตกใจ มีลมพายุพัดมาแรงหน่อยก็ตกใจน็อกน้ำตาย ส่วนปลาอื่นยังไม่เห็นมีตายเชื่อว่าวันพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้น ตอนนี้ทางวัดก็ปล่อยให้ชาวบ้านมาช้อนเอาปลาไปกินได้ เพราะเชื่อว่าปลาไม่ได้ตายเพราะเป็นโรคอะไรไม่มีอันตราย.

• Facebook
• Twitter
• Line