เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยตำรวจเอก ปรีชา นาคาแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.ราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์บรรทุกหกล้อตกถนนทางหลวงเลขที่ 2083 อุทุมพร – ราษีไศล บริเวณ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 18 -19 ใกล้สะพานข้ามห้วยหนองอึ่ง ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ จึงรายงานให้ พันตำรวจเอก ฉัตรภัทร แก้วจันดี ผู้กำกับทราบ ก่อนที่จะเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบรถยนต์บรรทุกหกล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ กะบะไม้ สีฟ้าทะเบียน 80-4235 ศรีสะเกษ สภาพด้านหน้ารถติดอยู่กับเสาไฟฟ้า ตกลงข้างทาง ซึ่งได้ประสาน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษ สงเคราะห์ เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีคนขับติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เครื่องมือตัดถ่าง เพื่อช่วยเหลือ สภาพรถบรรทุก 6 ล้อ ตกลงไปในคลองข้างถนนลึก 4 เมตร ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงสูง ถนนศรีสะเกษ – ราษีไศล เสียชีวิต 1 เจ็บ 6 คน พบผู้ขับขี่ติดอยู่ที่นั่งคนขับ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายตี อินธนู อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 8 ตำบลศรีสะอาด อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้โดยสารที่มาด้วยกันมีทั้งหมด จำนวน 6 คน ได้รับบาดเจ็บ เร่งถูกนำตัวส่ง รพ.ราษีไศล ขณะนี้อาการปลอดภัยทั้งหมด แต่ต้องนอนพักรักษาตัวต่อที่ รพ.ก่อนในระยะหนึ่ง เพื่อสังเกตอาการ
สอบถามผู้ที่โดยสารมาด้วย บอกว่า พวกตนเป็นชาว อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งหลังจากทำงานก่อสร้าง แท้งน้ำประปาที่ อำเภอขุขันธ์ แล้วเสร็จ ก็กำลังจะเดินทางกลับบ้าน โดยได้จ้างรถบรรทุกของ นายตี อินธนู เพื่อให้ไปส่งที่บ้านในวันนี้ ระหว่างเดินทางมุ่งหน้าผ่านมาจากอำเภออุทุมพรพิสัย มายัง อำเภอราษีไศล เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เกิดยางล้อรถด้านหน้าระเบิด ทำให้รถเสียหลักตกลงไปข้างถนน ชนกับเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบผู้บาดเจ็บจำนวน 6 คน คือ 1.นายควร ทองสม อายุ 38 ปี (บาดเจ็บเล็กน้อย) 2.นายสุริยันต์ วิลัยหอม อายุ 35 ปี (บาดเจ็บเล็กน้อย) 3.นายรัตนะ วิลัยหอม อายุ 57 ปี (บาดเจ็บเล็กน้อย) 4.นายหล่อ บุญแสนรื่น อายุ 47 ปี (บาดเจ็บแขนขาหัก) 5.นายยิ้ม พิมพ์รักษา อายุ 58 ปี (บาดเจ็บเล็กน้อย) 6.นายยงค์ ภูธิจักร อายุ 53 ปี (บาดเจ็บไหล่ไหปลาร้าหัก) ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาตัวอยู่ โรงพยาบาลราษีไศล พร้อมนี้เจ้หน้าที่ตำรวจ สภ.ราษีไศล ได้ติดต่อญาติผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ให้ทราบและเดินทางมาเยี่ยมและรับศพผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศตามศาสนาแล้ว
ขอบคุณภาพจาก มูลนิธิศรีสะเกษสงเคราห์, มูลนิธิสว่างจิตธรรมสถานศรีสะเกษ
