จากกรณีที่ได้มีคนเข้าไปร้องเรียน ให้มีการตรวจสอบโครงการ อาคารบังคับน้ำห้วยกิ๊กก๊ากพร้อมขุดลอก ที่บ้านบก หมู่ที่ 2 ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว มีการดำเนินการในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหัวกองและป่าดงบังอี่ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับการดำเนินการขุดลอกลำห้วยกิ๊กก๊าก ไม่มีการอนุรักษ์ต้นไม่ยางละไม้หวงห้ามอื่นๆ และปล่อยให้มีการลักลอบแปรรูปไม้หวงห้ามและนำออกไปอย่างผิดกฎหมาย
วันนี้ทางทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่มีเรื่องร้องเรียน หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ได้มีการสั่งหยุดการดำเนินการ เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว นางอรุณ หาญกล้า อายุ 70 ปี เจ้าของที่นาที่อยู่ติดกับโครงการดังกล่าว เผยว่า ทีแรกตนเองก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆ โครงการดังกล่าวถึงได้มีการหยุดการดำเนินโครงการไป เพราะตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้มีการเสียสละที่นาเพื่อทำโครงการดังกล่าว มารู้ก็เมื่อ 2-3 วันที่แล้วที่มีเจ้าหน้าที่จากจังหวัดลงมาตรวจสอบว่า โครงการชลประทานนั่นมีการตัดต้นไม้ในที่นา และแปรรูปรูปไม้ที่โค่นลงมา ซึ่งตนเองขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ความจริง ชลประทานไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย เป็นชาวบ้านและเจ้าของที่นาเองที่มีการ แปรรูปไม้ ที่มันทรุดตัวและล้มลง เพราะจุดบริเวณนั่นเป็นที่นาของชาวบ้าน และได้มีการแปลงเอกสารสิทธิ์ครอบครองอยู่แล้ว คนที่ไปร้องเรียนนั่นไม่ได้มีที่น่าอยู่ตรงที่จุดนี้เลย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย ร้องไปทำไม ทำให้โครงการต้องหยุดชะงัก ทั้งที่ก่อนจะมีการลงมือดำเนินโครงการดังกล่าวก็มีการลงมติประชาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านและเจ้าของที่นาทุกคนก็เห็นด้วยกันทั้งนั่น ตนเองก็กลัวว่าหากการดำเนินการล่าช้าจะทำให้ไม่มีน้ำเอาไว้ใช้ในหน้าแล้ง
นายสิงห์ สุธิมาตย์ อายุ 62 ปี เจ้าของที่นา เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่มีที่นาอยู่ติดกับโครงการดังกล่าว ไม่มีใครที่ไปร้องเรียน มีแต่ชาวบ้านอยากให้ดำเนินโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จ เพราะจะได้มีน้ำเอาไว้ใช้หน้าแล้ง ส่วน เรื่องการที่เจ้าหน้าที่ชลประทานจะเข้ามาตัดไม้และแปรรูปไม้ในที่นาของชาวบ้านนั่นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะหากเป็นเช่นนั่นเจ้าของที่นาและชาวบ้านคงไม่มีใครยอมแน่ เพราะต้นไม้นั่นอยู่ในที่นาของชาวบ้านเป็นของเจ้าของนา ตนเองก็ยอมรับว่าโครงการดังกล่าวหากมีการดำเนินการต้องส่วนที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว เพราะต้นไม้บางต้นนั่นมีการทรุดตัวล้มลงเนื่องจากพื้นที่ดินบางส่วนนั่นได้ถูกขุดออกไป จึงทำให้ดินเกิดทรุดตัวลงและต้นไม้ก็ล้มโค่นลง ชาวบ้านก็ได้มีการแปรรูปไม้ในที่นาของตัวเองที่เจ้าของนาเป็นเจ้าของที่นา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เกี่ยวกับการแปรรูปไม้ดังกล่าว
ขณะที่ทางด้านนายกันตสิษฐ์ ธนพนพิพัฒน์ ผอ.โครงการชลประทานอำนาจเจริญ เผยว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนทางชลประทานเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเชื่อโครงการดังกล่าวนั่นเป็นโครงการที่ชาวบ้านจะได้รับประโยชน์ในการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร ในช่วงที่ฤดูฝนทิ้งช่วงและฤดูปแล้ง และทางชลประทานเองก็ได้มีการดำเนินการขั้นตอนอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การประชุมลงประชามติ ชี้แจงขั้นตอนขบวนการทำงาน แจ้งข่าวชาวให้กับประชาชนในพื้นที่ทราบตลอด และทางชลประทานเองก็ได้ทำตามมติที่ประชุมทุกอย่าง ส่วนเอกสารความพร้อมในเรื่องขออนุญาตป่าไม้นั่น ทางชลประทานก็ได้มีการรวบรวมข้อมูลเอกสารทั้งหมดส่งให้ป่าไม้ครบถ้วนแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้ลงพื้นที่มาตรวจแล้ว ทั้งนี้ทางโครงการชลประทานอำนาจเจริญก็จะได้มีการเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด.